• แม้ว่าในสภาวะปัจจุบัน คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คจะมีอัตราการเจริญเติบโตในตลาด น้อยกว่าในอดีต อันมีปัจจัย สาเหตุมาจาก Technology ของเครื่องไม๊เครื่องมือรุ่นใหม่ ๆ ที่เป็นTechnology แบบสัมผัส อาทิ เช่น แท๊บเล็ตชนิดต่างๆ โทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าค่ายๆ ต่างก็มีคุณสมบัติในการใช้งานที่จะไม่แตกต่างจากโน๊ตบุ๊คเท่าไหร   เพียงแต่ว่าในความสะดวกคล่องตัวของเครื่องมือเครื่องใช้เหล่านั้นก็ยังไม่ได้ความคล่องตัวในการใช้งานในแบบฉบับเดิมๆ ของผู้ใช้ที่ต้องการจับเม้าส์ จับคีย์ฺบอรด์ ต่อสายปริ้น ฯลฯ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จึงยังถือว่าอยู่ในความสนใจของผู้ใช้ที่ต้องการความคล่องตัวในการทำงานอยู่ดีนั่นแหละครับ ช่างซ่อมโน๊ตบุ๊ค ที่เปิดให้บริการรับซ่อม ไม่ว่าจะเริ่มตั้งแต่ ขายอะแดปเตอร์ , เพิ่มแรม เพิ่มฮาร์ดดิสก์ เปลลี่ยนคียบอร์ด เปลี่ยนไวเรสแลน ขายเม้าส์ เปลี่ยนจอ เปลี่ยนแบตเตอรี่ ฯลฯ และอีกมากมายหลายอย่างด้วยกัน

เปิดร้านอยู่แล้ว แต่ยังซ่อมบอร์ดไม่เป็น

  • กรณีของผู้เป็นผู้ทำกิจการในแบบเดิมๆ เช่น เปลี่ยน ถอดอุปกรณ์อะไหล่ชิ้นใหญ่ ๆ เช่น ฮาร์ดดิกส์ แรม คีย์บอร์ด จอภาพ แบต ฯลฯ ก็สามารถที่จะยังมีรายได้เป็นกอบเป็นกำได้อยู่ตลอดครับ  ผู้ดำเนินกิจการในแนวทางนี้ อาจต้องมีการสำรองอะไหล่ชนิดต่างๆ ในราคาที่ค่อนข้างต้องใช้ต้นทุนที่สูงมากอยู่ เพราะอะไหล่แต่ละชิ้น แต่ละอันนั้นอาจเป็นของแท้ จากโรงงานของผู้ผลิตเอง หรืออาจเป็นของมือสอง สภาพสวย หรืออาจเป็นการได้รับจากอะไหล่เก่า ที่เรียกว่าไม่มีต้นทุนอะไรมากก็สามารถทำได้ ให้มีรายได้เข้าร้านได้เช่นกัน

 เปิดร้านซ่อมบอร์ดและอื่นๆอยู่แล้วแต่ยังซ่อมอาการที่เกี่ยวกับภาคไฟไม่เป็น

  • กรณีที่ซ่อมบอร์ดแบบ อบ เกิด ส่ง  นั่นหมายความว่า อาการที่เกี่ยวกับชิพ แล้วร้านซ่อมมีเครื่องอบชิพ ยกชิพ อยู่แล้ว ก็จะใช้วิธีการที่เรียกว่า จับขึ้นเตาก่อน ซึ่งผลที่ได้ก็อาจจะเป็นดังนี้คือ   ได้อาการเดิม  , หรือ อาจหายขาด สมบูรณ์  หรือ อาจ ดับไปเลยก็มี (บานปลาย)  ซึ่งกรณีของ อบ เกิด ส่ง นั้น ช่างเก่าๆ ได้ร่ำรวยกันมามากมายหลายท่านแล้วหละ  อบเกิดส่ง ครั้งนึงก็คิดลูกค้าได้ถึง 3500 บาท แล้วหละ
  • แต่ก็นั่นแหละ  พอร้านซ่อมเหล่านี้ เจออาการที่เกี่ยวกับทางระบบไฟ  ก็งงตื้อไปเลย หมายถึง ไปไม่ถูก  ก็อาจงมไปงมมา จนบอร์ดช้ำ บอร์ดเสียหายหนักไป ก็มี  กลุ่มนี้ก็จะวิ่งหาที่เรียนกันหละครับ