• สวัสดีครับ เพื่อนๆทุกท่าน วันนี้ เราได้ทำการเพิ่มเติมบทความเข้าใหม่อีกหนึ่งเรื่อง  เป็นบทความที่เกี่ยวกับอาการเสียของเครื่องโน๊ตบุ๊คที่กินกระแสสูง แล้วทำให้เกิดอาการเปิดไม่ติด เปิดไม่ติด อะแดปเตอร์จ่ายไฟกระพริบ อะแดปเตอร์จ่ายไฟดับ ไฟไม่มี ไฟหน้าปัทม์เครื่องไม่มี ฯลฯ ก้แล้วแต่จะพูดกันไปตามความเข้าใจของผู้ใช้นะครับ

บทความนี้ไม่ได้เจาะจงว่า ตัวเสียจะต้องเป็นในตำแหน่งที่อยู่ตรงรูปในบทความนี้สมอไป  แต่จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงลักษณะของการทำให้เกิดอาการเสีย  และพาเพื่อนๆ ผู้สนใจไปสู่แนวทางวิธีการวิเคราะห์

รูปแบบของอาการเสียที่เกิดขึ้น

  • ลักษณะของอาการเสียที่เกิดขึ้นจะเป็นว่า เปิดไม่ติดเลย  กดสวิทช์ยังไงก็ไม่ได้  มองไปที่อะแดปเตอร์ที่เคยมีไฟสถานะอยู่ก็ดับ หรือกระพริบแว๊บๆอยู่ประมาณนั้น  ในลักษณะแบบนี้  ผู้ใช้เครื่องคงยากที่จะทำการซ่อมเองได้ ถ้าไม่เข้าใจหลักการทางระบบไฟ หรืออิเล็คทรอนิคน์  การฝืนทำเพื่อให้เกิดการประหยัดค่าซ่อมนั้นอาจนำไปสู่ความเสียหายหนักขึ้น   ดังนั้น ***ส่งให้ช่างเขาดูแล  จะดีกว่าครับ***

RP-0065

  •  กรณีของผู้เป็นช่าง หากได้รับเครื่องโน๊ตบุ๊คที่มีลักษณะอาการของการเปิดไม่ติดเข้ามาซ่อม  ช่างก็จะทำการทดสอบการจ่ายกระแสจากเครื่องจ่ายไฟ (Regulator) เข้าสู่ช่องทางของเครื่อง DC In Jack กรณีเป็นไปตามคาดหมายว่าเครื่องจ่ายไฟ แสดงสถานะหน้าปัทม์ดังรูปตัวอย่าง (ตัวเลข อาจมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่ลักษณะของอาการ)  ผู้ซ่อมก็จะทราบได้ดีแล้วว่า ลักษณะของอาการ จะเป็นไปในทางใด

การตรวจซ่อมด้วยการสังเกตุ

  • ผู้ซ่อมอาจใช้วิธีการสังเกตุไปทั่วบอร์ดโน๊ตบุ๊คทั้งหน้า ทั้งหลัง ทุกๆ ตำแหน่ง เพื่อหาคราบน้ำ คราบกร่อน คราบสกปรก ฝุ่นละอองหนาๆ หาตัวไหม้ ตัวอุปกรณ์ที่มีลักษณะปูดบวม  แตก ทะลุ ฯลฯ และอีกหลายๆ ลักษณะ ที่ผู้ซ่อมจะต้องมีไหวพริบที่ดีในการค้นหา  แนวทางแบบนี้ ก็ถือเป็นการตรวจซ่อมได้ในแนวทางนึง  (เราอาจเห็นในรูปตัวอย่าง พลาสติกใสๆ ละลาย ก็ถือว่าเป็นตำแหน่งที่เป็นผู้ต้องสงสัยได้)

RP-0064

 

บทความนี้ไม่ได้เจาะจงว่า ตัวเสียจะต้องเป็นอย่างตำแหน่งที่อยู่ในรูป

การตรวจซ่อมด้วยการสัมผัส

  • ผู้ซ่อมอาจใช้วิธีการสัมผัส คลำหาตัวร้อน ตัวอุ่น ตำแหน่งของชุดภาคไฟ บนบอร์ดโดยทั่ว  เพื่อจะได้ทราบถึงตำแหน่ง หรือจุดที่เกิดปัญหาของอาการเสียบนบอร์ดนั้นๆ ได้ด้วยเร็ว  ก็จะสามารถทำให้ผู้ซ่อมเข้าถึงตำแหน่งและสามารถแก้ปัญหาของอาการที่เกิดขึ้นได้

เจอตัวเสีย หรือตำแหน่งเสียแล้ว  จะต้องทำอย่างไร ?

  • คำตอบก็คือว่า ก็จัดการเนื้อร้ายนี้ออกไปซะ  แต่คราวนี้ต้องมาดูว่า…ไอ้เจ้าตัวปัญหา หรือเนื้อร้ายนั้น  เป็นอุปกรณ์อะไร  และถ้าเอาออกไปแล้ว จะทำให้ระบบไฟกลับมาทำงานได้ดังเดิม หรือว่า ไม่ดีขึ้น หรือว่า เสียหายหนักกว่าเดิม  สิ่งเหล่านี้แหละที่ผู้ซ่อมที่มีประสบการณ์มีทักษะในการซ่อมตัวจริง ที่จะกระทำได้อย่างถูกต้อง   ส่วนผุ้ใช้ทั่วไป หากไม่ทราบว่าอุปกรณ์นั้นเป็นอะไร ทำหน้าทีอะไร  ตรงนี้ แนะนำว่า อย่าไปกระทำการซ่อมเองจะดีกว่าครับ เพราะอาจไม่คุ้มกับความเสียหายที่จะตามมาได้